Mycotoxin Tests for Animal Feed

Ratha Boriboonphoka #1693 Testing & Analysis

ความปลอดภัยของอาหารเป็นประเด็นสำคัญไม่เพียงแต่อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มเท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรรมอาหารสัตว์ ผู้ผลิตธัญพืช และผู้ผลิตปศุสัตว์ด้วย โดยองค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) ประมาณการว่ากว่า 25% ของผลผลิตทางการเกษตรทั่วโลกพบการปนเปื้อนของสารพิษจากเชื้อรา การใช้ยาฆ่าแมลง ยาฆ่าเชื้อรา หรือแม้แต่การใช้สารเคมีในการจัดการสารพิษจากเชื้อราในวัตถุดิบนั้น ล้วนเป็นการเพิ่มต้นทุนการผลิตทั้งสิ้น ส่งผลกระทบโดยตรงต่อเศรษฐกิจและผู้บริโภค ทำให้ราคาผลิตภัณฑ์สำหรับอาหารสัตว์สูงขึ้น นอกจากนี้ ผู้บริโภคเองก็อาจได้รับผลกระทบด้านสุขภาพจากการรับประทานผลพลอยได้จากสัตว์ เช่น เนื้อสัตว์ ไข่ นม ซึ่งเป็นผลมาจากการที่สัตว์กินอาหารสัตว์ที่ปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อราหรือสารเคมีตกค้างจากกระบวนการผลิต

เพื่อลดการปนเปื้อนรวมถึงต้นทุนการผลิต การตรวจคัดกรองเพื่อควบคุมปริมาณสารพิษจากเชื้อราในวัตถุดิบจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
  • วิธีการตรวจคัดกรอง สารพิษจากเชื้อราในอาหารสัตว์

การตรวจคัดกรองโดยทั่วไปจะพัฒนาในรูปแบบชุดตรวจซึ่งเป็นเครื่องมือที่จำเป็นสำหรับการตรวจติดตามสารพิษจากเชื้อราในอาหารสัตว์และส่วนผสม ผู้ใช้งานมีทั้งนักวิเคราะห์ที่มีข้อจำกัดด้านเวลาในการตัดสินใจ หรือใช้ในกรณีที่ไม่สามารถใช้วิธีการอื่นได้ เนื่องจากต้นทุนหรือสถานการณ์ วิธีการเหล่านี้สำหรับสารพิษจากเชื้อรา ชนิดเดียวหรือสารพิษจากเชื้อราทุกชนิดในกลุ่มเดียวกันมีทั้งการทดสอบเชิงคุณภาพ (qualitative) ที่แสดงว่ามีหรือไม่มีสารเจือปนเป้าหมาย และการทดสอบที่ให้ผลกึ่งปริมาณ (semi-quantitative) หรือเชิงปริมาณ (quantitative) ตัวอย่างวิธีที่จัดเป็นการตรวจคัดกรอง ได้แก่ วิธีการตรวจทางอิมมูโนและไบโอเซนเซอร์
วิธีการตรวจทางอิมมูโน วิธีการตรวจทางอิมมูโนจะใช้การจับ (recognition) ของแอนติบอดีจำเพาะ โดยสารพิษจากเชื้อจะทำหน้าที่เสมือนแอนติเจน การตรวจจับโดยทั่วไปจะเกิดขึ้นโดยการติดเครื่องหมาย (marker) สารที่ใช้ติดเครื่องหมายอาจเป็นสารกัมมันตภาพรังสี สารที่มีสี (chromogenic) หรือสารฟลูออเรสเซนต์ และทำปฏิกิริยากับเอนไซม์ซึ่งมักจะเป็นเอนไซม์ฮอร์สแรดิชเพอร์ออกซิเดส (HRP) วิธีการตรวจทางอิมมูโนที่ไม่มีการติดเครื่องหมายจะใช้กับสารพิษจากเชื้อราบางชนิดที่เรืองแสงฟลูออเรสเซนต์ตามธรรมชาติ หรือการวัดค่าการนำไฟฟ้า การทดสอบเหล่านี้ควรใช้สำหรับการตรวจคัดกรองระดับแรกและการศึกษาเชิงสำรวจเกี่ยวกับการปนเปื้อนสารพิษจากเชื้อรา เนื่องจากเป็นวิธีที่เรียบง่าย ราคาถูก มีความไว และมีความสามารถในการเลือก (sensitivity) แม้ว่าอาจจะมีปฏิกิริยาข้ามกับโครงสร้างแอนะล็อกเหมือนกัน นอกจากนั้น วิธีการนี้ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ที่ซับซ้อนหรือบุคลากรที่มีทักษะ วิธีการเหล่านี้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องในรูปแบบต่างๆ โดยมีเป้าหมายให้ระบบมีความรวดเร็ว พกพาสะดวก และใช้งานง่าย Enzyme-linked immunosorbent assay (ELISA), Lateral flow immunoassay (LFIA) และ fluorescence polarization immunoassay (FPIA) จัดเป็นวิธีการตรวจคัดกรองประเภทนี้
• Lateral flow immunoassay (LFIA) หรือแถบทดสอบ (test strip) ที่ใช้เมมเบรนมีจำหน่ายทั่วไป เป็นชุดทดสอบที่ให้ผลลัพธ์เชิงคุณภาพที่ใช้การอ่านค่าด้วยสายตาเป็นหลัก เพื่อบ่งชี้ว่ามีหรือไม่มีสารพิษจากเชื้อราแบบจำเพาะที่ต่ำกว่าระดับคงที่ที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ไม่นานมานี้ สามารถทำการตรวจจับแบบกึ่งปริมาณโดยใช้เครื่องอ่านแถบทดสอบโฟโตเมตริกแบบพกพา ในการทดสอบ LFIA ตัวอย่างจะไหลไปตามแถบโดยการเคลื่อนตัวแบบ Capillary migration แล้วเกิดแถบสองแถบ แถบทดสอบจะมีความเข้มของสีแปรผกผันกับความเข้มข้นของสารพิษจากเชื้อรา และแถบควบคุมที่ใช้เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของการทดสอบ ดังนั้น เมื่อความเข้มข้นของสารพิษในตัวอย่างเพิ่มขึ้น ความเข้มของเส้นทดสอบจะลดลง ความเข้มของเส้นบนแถบทดสอบจะถูกแปลงเป็นผลลัพธ์เชิงปริมาณที่แสดงค่าเป็นส่วนในพันล้านส่วนหรือส่วนในล้านส่วน (ppb หรือ ppm) วิธีการนี้เป็นเครื่องมือคัดกรองที่มีราคาถูก ช่วยให้วิเคราะห์ได้อย่างรวดเร็ว มีขั้นตอนเดียว และทดสอบได้ที่แหล่งกำเนิด
• Enzyme-linked immunosorbent assay (ELISA) เป็นวิธีอิมมูโนที่ใช้ตรวจสอบสารพิษจากเชื้อราอย่างรวดเร็ว และใช้ทั่วไปในห้องปฏิบัติการเกษตรและเกษตร สารพิษจากเชื้อราที่หลักเกณฑ์ควบคุมทั้งหมดจะมีชุดเพลตไมโครไทเทอร์ ELISA (ELISA microtiter) จำหน่ายทั่วไป ซึ่งมีวิธีการใช้ ช่วงของการวิเคราะห์ และเกณฑ์การทดสอบความใช้ได้กำหนดไว้อย่างชัดเจน รูปแบบของ ELISA ที่สามารถใช้ได้มีหลายรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ในการวิเคราะห์สารพิษเชื้อรานิยมใช้ ELISA แบบแข่งขัน (competitive ELISA) ซึ่งเป็นรูปแบบที่ใช้กับสารพิษจากเชื้อราซึ่งเป็นแอนติเจนขนาดเล็กและมีตำแหน่งจับแอนติบอดี (epitope) เพียงจุดเดียว วิธี Direct competitive ELISA ในรูปแบบหลุมขนาดเล็ก (microwell) ช่วยให้ผู้ใช้ทราบค่าความเข้มข้นที่แน่นอนในระดับ ppb สารพิษจากเชื้อราอิสระในตัวอย่างและตัวอย่างควบคุมจะแข่งขันกับสารพิษจากเชื้อราที่ติดฉลากด้วยเอนไซม์ (conjugate) ที่ตำแหน่งจับแอนติบอดี หลังจากขั้นตอนการล้าง จะเติมสารตั้งต้น (substrate) ซึ่งทำปฏิกิริยากับ Conjugate จนเกิดสี ความเข้มของสีที่มากขึ้นหมายถึงสารพิษจากเชื้อราน้อยลง การทดสอบนี้อ่านความทึบแสง (optical density) ด้วยเครื่องอ่าน Microwell ความทึบแสงของตัวอย่างควบคุมจะใช้เพื่อสร้างกราฟมาตรฐาน และความทึบแสงของตัวอย่างจะถูกเขียนเทียบกับกราฟเพื่อคำนวณความเข้มข้นที่แน่นอนของสารพิษจากเชื้อรา
• Fluorescence polarization immunoassay (FPIA) วัดอัตราการหมุนของฟลูออโรฟอร์ (ตัวติดตาม, tracer) ทางอ้อมในสารละลาย จากการแข่งขันระหว่างสารพิษจากเชื้อราอิสระในตัวอย่างและสารพิษจากเชื้อราที่ติดฉลากด้วยตัวติดตามของแอนติบอดีจำเพาะ ตัวติดตามที่จับกับแอนติบอดีจะถูกจำกัดการหมุน ทำให้ค่าโพลาไรเซชันของฟลูออเรสเซนต์เพิ่มขึ้น ดังนั้น หากตัวอย่างมีความเข้มข้นของสารพิษจากเชื้อราเป้าหมายสูงจะแข่งขันกับตัวติดตามเพื่อทำปฏิกิริยากับแอนติบอดี ทำให้ตัวติดตามอิสระเคลื่อนที่เร็วขึ้น นั่นคือมีสัญญาณโพลาไรเซชันของฟลูออเรสเซนต์ต่ำ ค่านี้จะแปรผกผันกับปริมาณของสารพิษจากเชื้อราในตัวอย่าง วิธี FPIA มีความน่าเชื่อถือ รวดเร็ว ใช้งานง่าย และค่อนข้างเหมาะสมสำหรับระบบอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของสารละลายจะทำให้การใช้งานในสถานการณ์ภาคสนามยากขึ้น

  • เคล็ดลับการเลือกชุดตรวจสารพิษจากเชื้อรา

การปรับปรุงเทคโนโลยีทำให้สามารถทำการทดสอบแทนที่การทดสอบแบบเดิมในห้องปฏิบัติการ และดำเนินการโดยผู้ปฏิบัติงานที่มีประสบการณ์ในห้องปฏิบัติการน้อย การเลือกชุดทดสอบให้ตรวจสอบให้มั่นใจว่าเป็นไปความต้องการของการปฏิบัติงาน ต้องประเมินความเสี่ยงเพื่อพิจารณาว่าธัญพืชและอาหารสัตว์ชนิดใดต้องทดสอบสารพิษจากเชื้อรา คุณลักษณะต่างๆ เช่น ขั้นตอนการใช้งาน การสกัดโดยใช้ตัวทำละลาย ช่วงของค่าผลการทดสอบที่ต้องการ และการจัดเก็บชุดตรวจแต่ละแบบอาจแตกต่างกันไป
• ความแม่นยำ - ผลลัพธ์ที่ไม่ถูกต้องทำให้ไม่บรรลุจุดประสงค์ของการทดสอบ
• ความเร็ว – สถานที่ปฏิบัติงานขนาดใหญ่จำเป็นต้องทดสอบตัวอย่างจำนวนมาก
• ใช้งานง่าย - การมีวิธีการใช้ง่ายเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้แน่ใจว่าผู้ใช้ใหม่จะทำการทดสอบอย่างถูกต้องและได้ผลการทดสอบที่มีคุณภาพสูง
• ความสามารถในการจัดการข้อมูล – ซัพพลายเออร์ชุดตรวจสารพิษจากเชื้อราควรช่วยลูกค้าเพื่อให้เข้าถึงข้อมูลการทดสอบได้แบบเรียลไทม์ ช่วยให้พวกเขาจัดการความเสี่ยงและตัดสินใจในการขายสินค้าได้ดีขึ้น
• ความเป็นมิตรต่อผู้ใช้ - การทดสอบสารพิษจากเชื้อราควรเป็นมิตรกับผู้ใช้เพื่อให้พนักงานทุกคนสามารถทำการทดสอบได้ ช่วยลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาดจากการวัด

  • Reveal Q+ และ Reveal Q+ MAX

• ให้ผลเชิงปริมาณ (quantitative) — การที่ทราบปริมาณของสารพิษจากเชื้อราที่อยู่ในตัวอย่างช่วยให้คุณประเมินความปลอดภัยของวัตถุดิบคุณได้ดียิ่งขึ้นและยังมั่นใจได้ว่าตัวอย่างผ่านมาตรฐานการควบคุมตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ
• บริหารจัดเก็บข้อมูลได้สะดวก — ปกป้องและมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูลคุณได้ด้วยระบบการถ่ายโอนข้อมูลแบบอัตโนมัติจากเครื่องอ่านไปยังโปรแกรมคุณ
• สามารถแก้ไขปัญหาได้เร็วและตรงจุด — ชุดตรวจแบบ Lateral flow ช่วยลดขั้นตอนในการทำงานของคุณและทำให้วิธีการทดสอบมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น
• ใช้งานง่าย — ใช้อุปกรณ์น้อย ช่วยลดระยะเวลาในการฝึกอบรมผู้ใช้งาน ชุดทดสอบ Reveal Q+ แบบ Lateral Flow ของเราใช้ตัวทำละลายทั้งแบบดั้งเดิม (solvent based) และแบบที่เป็นสูตรน้ำ (water based) สำหรับการสกัดสารพิษชนิดต่างๆ เราสามารถทดสอบสารพิษได้ดังต่อไปนี้: Aflatoxin, DON, Fumonisin, Ochratoxin, Zearalenone, และ T2/HT2
ชุดทดสอบ Reveal Q+ Endpoint ได้รับการออกแบบมาโดยเฉพาะ เหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการตรวจเป็นจำนวนมาก
ชุดทดสอบ Reveal Q+ MAX Aqueous Extraction สามารถทดสอบสารพิษได้ดังต่อไปนี้: Aflatoxin, DON, Ochratoxin, T-2/HT-2 และ Zeralenone
ผลลัพธ์ของการทดสอบด้วยชุด Lateral Flow สามารถอ่านค่าและแปลผลได้ด้วยระบบ Raptor®

  • ชุดทดสอบเชิงปริมาณ Veratox® ELISA Microwell assays

Veratox® เหมาะสำหรับโรงงานอาหารที่มีห้องปฏิบัติการเป็นของตนเองไปจนถึงผู้ที่ส่งตรวจที่ห้องแล็บภายนอก หรือแม้กระทั่งหน่วยงานห้องปฏิบัติการของรัฐบาล ให้ผลเชิงปริมาณที่มีความแม่นยำ และยังมีชุดทดสอบที่มีความไวต่อการทดสอบสูงเป็นพิเศษ
• ให้ผลเชิงปริมาน (quantitative) — การที่ทราบปริมาณของสารพิษจากเชื้อราที่อยู่ในตัวอย่างช่วยให้คุณประเมินความปลอดภัยของวัตถุดิบคุณได้ดียิ่งขึ้นและยังมั่นใจได้ว่าตัวอย่างผ่านมาตรฐานการควบคุมตามกฎหมายหรือระเบียบข้อบังคับ
• ทดสอบได้หลายตัวอย่างพร้อมกัน — สามารถทดสอบได้มากถึง 19 ตัวอย่างต่อครั้งเมื่อทำคู่กับตัวอย่างควบคุม (test control)
• ให้ผลแม่นยำ — เทคนิค ELISA ให้ผลลัพธ์ที่มีความเทียบเท่ากับวิธีการวิเคราะห์อื่นๆ เช่น HPLC
• ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน — อบรมผู้ใช้งานได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องมีเทคนิคซับซ้อน ลดระยะเวลาในการทำงาน
ชุดทดสอบ Veratox ELISA สามารถใช้ทดสอบ Aflatoxin, DON, Ochratoxin, Zearalenone, T-2/HT-2 toxin และ Fumonisin ได้ สามารถอ่านค่าได้ด้วยเครื่อง Statfax Reader หรือ Microwell Plate Readers อื่นๆ สำหรับการวิเคราะห์ตัวอย่างที่มีการปนเปื้อนน้อย เรามีชุดทดสอบแบบความไวสูง (High Sensitivity - HS) สำหรับ Aflatoxin, DON, Fumonisin และ Ochratoxin นอกจากชุดทดสอบทั่วไปแล้ว ยังมีชุดทดสอบ Veratox MAX ที่ใช้การสกัดด้วยน้ำ (aqueous extraction) สำหรับการตรวจหา Total aflatoxin, Aflatoxin แบบ HS และ Zearalenone
Aflatoxin M1
สำหรับตัวอย่างผลิตภัณฑ์จากนม เช่น น้ำนม นมผง เนย หรือชีส ชุดทดสอบ ELISA สำหรับ Aflatoxin M1 สามารถออกผลได้ภายในระยะเวลา 45 นาที ที่ช่วง 5-100 ppt (part per trillion) และยังมีชุดตรวจแบบ Lateral Flow สำหรับการตรวจอย่างรวดเร็วออกผลภายใน 5 นาทีด้วย

  • การตรวจคัดกรอง (screening) vs. ผลทดสอบเชิงปริมาณ (quantifying results)

ชุดทดสอบสารพิษจากเชื้อราแบบรวดเร็วของเรามีให้ใช้งานหลายรูปแบบ Reveal® และ Reveal MAX ใช้งานง่ายและสะดวกที่สุด เหมาะสำหรับการแปลผลแบบพบ/ไม่พบ สามารถออกผลคัดกรองตัวอย่างได้เร็วสุดภายใน 2 นาที ในขณะที่ชุดทดสอบ Veratox, Reveal Q+ และ Reveal Q+ MAX ให้ผลเชิงปริมาณได้ในช่วง Parts per million (ppm) หรือ Billion (ppb) ภายในเวลาไม่กี่นาที อีกทั้งยังใช้งานง่าย อุปกรณ์น้อย และขั้นตอนไม่ซับซ้อน

More articles