Back to Table of Content

Cannabis in Cosmetics:
Active Compounds and Applications

  • Issue:14.80
  • Author info:INNOLAB team
English version

อุตสาหกรรมความงามทั่วโลกเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าถึง 532 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยสหรัฐอเมริกาเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุด มีสัดส่วนประมาณ 20% หรือประมาณ 106.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะนี้ กัญชาถือเป็นหนึ่งในส่วนผสมที่ในตลาดความงามที่ได้รับความนิยม เป็นเทรนด์ที่ยุโรปนำเข้าจากสหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นประเทศแรกที่รับการว่าเป็นส่วนผสมที่ถูกกฎหมาย แคนนาบิไดออล (Cannabidiol, CBD) เป็นสารเคมีที่พบในพืชกลุ่มกัญชา โดยกัญชง (hemp) ที่ใช้ในผลิตภัณฑ์ความงามมี CBD สูง CBD เป็นสารเคมีธรรมชาติที่มีคุณสมบัติทางโภชนาการและยาที่ยอดเยี่ยม ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีผลต่อจิตประสาท และพบว่ามีคุณสมบัติที่เป็นประโยชน์ต่อผิว CBD จึงเป็นส่วนผสมจากธรรมชาติที่เหมาะสำหรับการดูแลผิว

  • สารต้านอนุมูลอิสระอันทรงพลัง: CBD เป็นหนึ่งในตัวเก็บอนุมูลอิสระ (radical collector) ที่ใหญ่ที่สุด จึงมีประสิทธิภาพดีมากในการปกป้องผิวจากอันตรายที่เกิดจากอนุมูลอิสระ
  • บรรเทาอาการปวด: ฤทธิ์ต้านการอักเสบช่วยลดการระคายเคืองและการติดเชื้อของผิวหนัง จึงเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับผิวแพ้ง่าย นอกจากนั้น ยังเป็นส่วนผสมแนะนำสำหรับผิวที่มีแนวโน้มเป็นสิว เนื่องจากมีคุณสมบัติในการควบคุมความมัน
  • ให้ความชุ่มชื้น: CBD อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งกรดไขมันโอเมกา-3 CBD เป็นสารออกฤทธิ์ที่มีคุณค่าทางโภชนาการมาก ช่วยควบคุมการผลิตไขมัน รักษาสมดุลของไฮโดรลิพิด (hydrolipids) ในผิวหนังชั้นนอก จึงรักษาปริมาณน้ำและปรับความชุ่มชื้น
  • ช่วยผ่อนคลาย: คุณสมบัติช่วยผ่อนคลายและการบรรเทาลดผลจากความเครียดต่อผิว ทำให้ดูอ่อนวัยและมีลักษณะที่ผ่อนคลายมากขึ้น
  • ความแตกต่างระหว่างกัญชา CBD และกัญชง

  • Cannabis indica (กัญชา) และ Cannabis sativa (กัญชง) มีลักษณะทางกายภาพที่แตกต่างหลายประการ ได้แก่ ความสูงและขนาด ความยาวปล้อง ขนาดและโครงสร้างของใบ ขนาดและความหนาแน่นของตา เวลาออกดอก กลิ่น ควันและผลจากควัน สายพันธ์ indica มักมีต้นเตี้ยกว่าและเป็นพุ่มมากกว่าสายพันธุ์ sativa สายพันธุ์ indica มักจะมีใบกว้างและสั้น มีแฉกกว้าง ในขณะที่สายพันธุ์ sativa มีใบยาว แฉกยาวและบาง ตาของสายพันธุ์ indica มีแนวโน้มที่จะกว้าง หนาแน่น และใหญ่ ในขณะที่สายพันธุ์ sativa มักมีดอกยาวรูปร่างคล้ายไส้กรอก
  • กัญชาและ CBD มีความแตกต่างกัน แม้ว่าทั้งคู่จะได้จากพืชชนิดเดียวกันก็ตาม CBD เป็นสารเคมีเดี่ยวที่แยกจากพืชกลุ่มกัญชา ในขณะที่กัญชาประกอบด้วยสารเคมีตามธรรมชาติมากมาย รวมถึง เดลตา-9-เตตราไฮโดรแคนนาบินอล (THC)
  • ต้นกัญชาประกอบด้วยสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพ (สารกลุ่มแคนนาบินอยด์) มากกว่า 80 ชนิด อย่างไรก็ตาม สารที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดคือ THC และ CBD การจัดจำแนกทางอนุกรมวิธานของพืชสกุลกัญชาจะจำแนกตามปริมาณ THC และ CBD อีกด้วย
  • Cannabis indica มีปริมาณ THC สูง จึงสัมพันธ์กับการนำไปใช้ผลิตกัญชาสำหรับเสพ (marijuana) ในขณะที่ Cannabis sativa มีปริมาณ CBD สูง มักใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และล่าสุด ใช้เป็นส่วนผสมเครื่องสำอาง อาหารและยา CBD ไม่มีผลทางจิตประสาท ซึ่งแตกต่างจาก THC
  • กัญชงและสารสกัดอื่นๆ ใช้ในเครื่องสำอางได้อย่างไร?
    สารสกัดจากกัญชงที่ใช้ในเครื่องสำอาง

  • น้ำมันเมล็ดกัญชง: สกัดแบบเย็นจากเมล็ด น้ำมันกัญชงมีคุณสมบัติของสารให้ความชุ่มชื้นหรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีประสิทธิภาพมาก ทำหน้าที่เป็น emollient ทำให้ผิวนุ่มและเรียบเนียนขึ้น น้ำมันเมล็ดกัญชงมีกรดไขมันจำเป็นสูง (โอเมกา-3 และ -6) กรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) และสารอาหารอื่นๆ ที่ช่วยให้ผิวมีสภาพดี
  • น้ำเมล็ดกัญชง: เป็นน้ำที่มีกลิ่น (aromatic) ได้จากการกลั่นด้วยไอน้ำจากเมล็ดกัญชง น้ำที่ได้จากการกลั่น (Hemp hydrosols) ใช้เป็นส่วนผสมพื้นฐานสำหรับครีมทาหน้าเนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นสารให้ความชุ่มชื้น
  • วัตถุดิบอื่นๆ จากกัญชง ได้แก่ ผลพลอยได้จากการผลิตน้ำมันเมล็ดกัญชง ผงเนื้อเมล็ดและเนื้อเมล็ด (seedcake and seedcake powder) ซึ่งอาจใช้เป็นสารขัดสี (abrasive) ได้ ส่วนสารอนุพันธ์ เช่น โพแทสเซียมเฮมป์ซีเดต ใช้เป็นส่วนผสมในสบู่และน้ำยาล้างมือ และเอทิลแคนนาบิสซีเดต สามารถใช้เป็นสารทดแทนไซโคลเพนทาซิลอกเซน (D5) จากธรรมชาติ

    ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง
    ลูกค้าจำนวนมากเต็มใจที่จะเปลี่ยนไปใช้ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ ที่สะอาดและมีความยั่งยืน การแทนที่ผลิตภัณฑ์เสริมความงามประจำวันสองสามรายการด้วยเครื่องสำอางที่ผสมกัญชาเป็นเพียงหนึ่งในวิธีง่ายๆ ในการผสานผลิตภัณฑ์ธรรมชาติเข้ากับชีวิตประจำวัน
    CannaCon ผู้จัดการประชุมที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมกัญชาได้เขียนบทความนำเสนอผลิตภัณฑ์บางประเภทในบล็อก พวกเขาระบุว่าผลิตภัณฑ์เมคอัพผสมกัญชาเป็นหนึ่งในสิ่งที่ร้อนแรงที่สุดในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางและอุตสาหกรรมกัญชา การผสานรวมสุขภาพที่ดีของกัญชาและ CBD เข้ากับความงามจากเครื่องสำอางไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่นที่จะผ่านไปอย่างรวดเร็วชั่วข้ามคืน ผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจในตลาดเมื่อเร็วๆ นี้ ได้แก่

  • ครีมทาหน้าและเซรัมผสม CBD: มอบศักยภาพของ CBD ทั้งหมดเพื่อผิว แบรนด์มากมายต่างผสม CBD ในครีมและเซรัมเพื่อให้มีความโดดเด่นเป็นพิเศษ ครีมทาหน้าผสม CBD เป็นที่นิยมมากขึ้นเนื่องจากคุณสมบัติในการให้ความชุ่มชื้นอันทรงพลังซึ่งเป็นประโยชน์ต่อทุกสภาพผิว เมื่อใช้ CBD เฉพาะจุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งจะแทรกซึมเข้าสู่ผิว เป็นประโยชน์ให้กับชั้นผิวหนังและชั้นใต้ผิวหนัง
  • มาสคาร่าผสมกัญชา: มาสคาร่าแบบดั้งเดิมทำจากขี้ผึ้ง โดยสามารถใช้กัญชาทดแทนขี้ผึ้งได้ สร้างตัวเลือกที่เป็นมิตรกับวีแกน (vegan) เนื่องจากส่วนผสมอยู่ในรูปเป็นน้ำมันจึงช่วยให้สภาพขนและมีศักยภาพในการส่งเสริมการเจริญของขนอีกด้วย
  • แชปสติก ลิปกลอส ลิปบาล์ม ลิปสครับและลิปสติกผสม CBD: CBD มีคุณสมบัติเป็นสารต้านแบคทีเรีย ช่วยในการปกป้องผิว ในขณะที่คุณสมบัติต้านอนุมูลอิสระช่วยซ่อมแซมริมฝีปากที่เจ็บและแตก สามารถช่วยลดการอักเสบที่เกิดจากแผลพุพอง (cold sores) และลดอาการระคายเคืองได้ CBD ช่วยล็อกความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ ทำให้ริมฝีปากนุ่ม
  • อายแชโดว์พาเลตต์ผสมกัญชง: กัญชงเต็มไปด้วยกรดไขมันจำเป็น เช่น โอเมกา-3 ช่วยให้ผิวนุ่มและมีสุขภาพดี ในขณะที่ช่วยป้องกันสัญญาณของริ้วรอยและความเสียหายจากแสงแดด โดยเฉพาะรอบดวงตาซึ่งเป็นผิวที่บอบบางที่สุด
  • การรักษาสิว: กัญชามีคุณสมบัติต้านการอักเสบ ที่เป็นความหวังในการใช้รักษาโรคผิวหนัง เช่น สิวและโรคสะเก็ดเงิน การใช้สารต้านการอักเสบกับผิวหนังเป็นการบรรเทาและมีแนวโน้มที่จะลดผลข้างเคียงที่มองเห็นได้จากแผลอักเสบ กัญชาช่วยบรรเทาอาการปวดและระคายเคืองที่เกิดจากสภาพผิวเช่นนี้ นอกจากนั้น ยังช่วยยับยั้งการเกิดสิวด้วยการควบคุมน้ำมันที่ผลิตจากต่อมไขมัน
  • ชะลอวัย: มีความเชื่อว่าวิตามินซีและอีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรงที่สุด แต่จากการศึกษาหลายชิ้นพบว่าแคนนาบินอยด์มีความแรงถึง 50% มนุษย์ที่มีอายุประมาณ 20 ปี คอลลาเจนที่ผลิตได้จะลดลง ส่วนอนุมูลอิสระจะไปเร่งการสลายตัวของคอลลาเจนด้วย สารต้านอนุมูลอิสระจะต่อสู้และช่วยซ่อมแซมผิวของเราจากอนุมูลอิสระที่สร้างความเสียหาย ซึ่งอาจช่วยลดริ้วรอยและรอยเหี่ยวย่น
  • ผลิตภัณฑ์อื่นๆ : น้ำมันเมล็ดกัญชงใช้ในในผลิตภัณฑ์ต่างๆ เช่น สบู่ แชมพู ครีมทามือ และน้ำมันนวดตัว นอกเหนือจากการปรับสภาพผิวแล้ว ยังสามารถนำมาใช้ในผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมเพื่อปรับสภาพลักษณะและความรู้สึกเมื่อสัมผัสเส้นผมได้อีกด้วย